NOOZ ที่นอนคุณภาพดี ส่งฟรีทั่วไทย พร้อมบริการจ่ายเงินปลายทาง  สั่งซื้อเลย

cover-เราควรเปลี่ยนที่นอนเมื่อไหร่ดี

เราควรเปลี่ยนที่นอนเมื่อไหร่ดี? แนะนำ 5 วิธีดูแลที่นอน ให้นอนสบาย ใช้งานได้นาน

การเลือกที่นอนที่ดีอาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แต่การดูแลรักษาที่นอนให้ใช้งานได้ยาวนานและอยู่ในสภาพที่ดีนั้น ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หากละเลยการดูแลรักษา ที่นอนอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร และส่งผลต่อสุขภาพหลังและคุณภาพการนอนโดยรวม แล้วเราควรเปลี่ยนที่นอนเมื่อไหร่ดี? สัญญาณว่าควรซื้อที่นอนใหม่ พร้อมแนะนำ 5 วิธีดูแลที่นอน ให้นอนสบาย ใช้งานได้นาน

เราควรเปลี่ยนที่นอนเมื่อไหร่?

ที่นอนมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 7–10 ปี ขึ้นอยู่กับวัสดุและการดูแล วัสดุภายในเสื่อมสภาพตามเวลา แม้ภายนอกจะยังดูดี
ควรตรวจสอบอาการยุบตัว ไม่คืนรูป หรือความไม่สม่ำเสมอของพื้นผิวหากตื่นมาแล้วรู้สึกปวดหลัง หรือหลับไม่สนิท อาจเป็นสัญญาณเสื่อมเสียงดังจากสปริง หรือที่นอนมีคลื่น/ก้อนแข็ง ก็บ่งบอกถึงโครงสร้างเสื่อมกลิ่นอับและคราบฝังแน่น แม้ทำความสะอาดแล้วก็เป็นสัญญาณเสื่อมการตรวจสอบอายุใช้งานช่วยให้วางแผนเปลี่ยนที่นอนได้อย่างเหมาะสมลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจากการใช้งานที่นอนเกินอายุเป็นการดูแลเชิงป้องกันมากกว่าการแก้ไขภายหลัง
ช่วยรักษาคุณภาพการนอนและยืดอายุการใช้งานโดยรวม

pic1-เราควรเปลี่ยนที่นอนเมื่อไหร่ดี

1. พลิกหรือกลับด้านที่นอนอย่างสม่ำเสมอ

การพลิกหรือหมุนที่นอนเป็นวิธีดูแลรักษาที่สำคัญในการยืดอายุการใช้งาน เมื่อใช้งานซ้ำบริเวณเดิม แรงกดทับจากร่างกายจะทำให้ที่นอนยุบตัวเฉพาะจุด การหมุนหรือกลับด้านช่วยกระจายแรงกด ลดการเสื่อมสภาพของวัสดุภายใน
ช่วยรักษารูปทรง ความแน่น และสมดุลของที่นอนได้ยาวนานยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงของอาการปวดหลังจากการรองรับที่ไม่สม่ำเสมอ ควรพลิกหรือหมุนที่นอนทุก 3–6 เดือนอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นที่นอนด้านเดียว ควรหมุนเฉพาะหัว-ท้าย หลีกเลี่ยงการกลับด้านควรตรวจสอบคำแนะนำจากผู้ผลิตก่อนดำเนินการ การดูแลที่นอนอย่างถูกวิธีส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพการนอน เมื่อที่นอนอยู่ในสภาพดี การนอนหลับก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. ใช้ผ้าปูที่นอนและแผ่นรองที่นอน

การใช้ผ้าปูและแผ่นรองที่นอนเป็นวิธีพื้นฐานในการรักษาความสะอาดและยืดอายุการใช้งานที่นอน ช่วยป้องกันคราบเหงื่อ น้ำมันจากผิวหนัง และเศษเซลล์ผิวไม่ให้ซึมลงสู่เนื้อที่นอน ลดการสะสมของไรฝุ่น แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม แผ่นรองที่นอนบางประเภทมีคุณสมบัติกันน้ำ ช่วยป้องกันความชื้นและการเกิดเชื้อรา
ช่วยถนอมผิววัสดุของที่นอน ลดการเสียดสีจากการเคลื่อนไหวขณะนอน เป็นชั้นป้องกันที่สามารถถอดซักได้ง่ายกว่าเปลี่ยนหรือทำความสะอาดที่นอนโดยตรง ลดกลิ่นอับและยืดอายุการใช้งานของวัสดุภายใน เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เด็กเล็ก หรือผู้ที่เหงื่อออกมาก ควรเลือกผ้าที่ระบายอากาศได้ดีและซักทำความสะอาดสม่ำเสมอ การใช้ผ้าปูและแผ่นรองที่นอนอย่างเหมาะสมช่วยเสริมสุขอนามัยและคุณภาพการนอน

เราควรเปลี่ยนที่นอนเมื่อไหร่ดี-วิธีดูแลที่นอน-2

3. ทำความสะอาดที่นอนอย่างสม่ำเสมอ

การทำความสะอาดที่นอนเป็นประจำช่วยลดการสะสมของฝุ่น ไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้และปัญหาทางเดินหายใจจากสิ่งสกปรกที่ซ่อนอยู่ในเนื้อผ้า ลดการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับจากความชื้นที่สะสมในที่นอน
การดูดฝุ่นเดือนละ 1–2 ครั้ง และตากแดดอ่อน ๆ เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพหากเกิดคราบเปื้อนควรรีบทำความสะอาดเพื่อป้องกันการฝังลึกและยืดอายุวัสดุ สิ่งสกปรกที่สะสมอาจทำให้วัสดุภายในเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ช่วยถนอมความยืดหยุ่นและรูปทรงของที่นอนให้ใช้งานได้นาน การรักษาความสะอาดส่งเสริมสุขอนามัยในการนอนหลับ
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีภูมิแพ้ เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ การดูแลอย่างสม่ำเสมอทำให้ที่นอนสะอาดและมีคุณภาพอย่างยั่งยืน

เราควรเปลี่ยนที่นอนเมื่อไหร่ดี-วิธีดูแลที่นอน-1

4. หลีกเลี่ยงความชื้นและแดดจัด

ความชื้นเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ที่นอนเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติเมื่อวัสดุภายในดูดซับความชื้น อาจเกิดเชื้อรา แบคทีเรีย และไรฝุ่นสะสมส่งผลต่อสุขภาพและลดประสิทธิภาพในการรองรับน้ำหนักของที่นอนควรหลีกเลี่ยงการวางที่นอนในห้องอับทึบหรือใกล้แหล่งความชื้นการตากแดดอ่อนช่วยลดความชื้น แต่ไม่ควรตากแดดจัดเป็นเวลานาน
แดดจัดอาจทำให้วัสดุผิวแห้งกรอบ ผ้าหุ้มกรอบ หรือเกิดการเสียรูปห้องนอนควรมีอากาศถ่ายเท ใช้เครื่องลดความชื้นหรือเปิดหน้าต่างเป็นประจำเพื่อระบายอากาศควรสังเกตกลิ่นอับหรือ ความชื้นสะสมและจัดการทันทีการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างเหมาะสมช่วยยืดอายุที่นอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. เลือกฐานเตียงรองที่นอนที่เหมาะสม

การเลือกฐานรองที่นอนที่เหมาะสมมีความสำคัญต่อการยืดอายุการใช้งานของที่นอนและคุณภาพการนอนหลับ ฐานควรมีโครงสร้างแข็งแรง มั่นคง และพื้นผิวเรียบเสมอกันเพื่อรองรับน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกฐานให้เข้ากับชนิดของที่นอน เช่น ที่นอนยางพาราอาจเหมาะกับฐานแผ่นเรียบ ขณะที่ที่นอนสปริงอาจใช้ฐานโครงไม้ที่มีช่องระบายอากาศ พื้นที่รองที่นอนควรมีการระบายอากาศที่ดีเพื่อลดการสะสมความชื้นและเชื้อรา ขนาดของฐานต้องพอดีกับที่นอนเพื่อป้องกันการเลื่อนหรือยุบตัวที่ขอบ การใช้งานฐานที่ไม่ได้มาตรฐานอาจส่งผลให้ที่นอนเสียรูปทรงหรือยุบตัวก่อนเวลาอันควร ทั้งนี้ การเลือกฐานที่เหมาะสมจึงเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลรักษาที่นอนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

แนะนำที่นอน-Nooz-Cloud-Helix-นอนสบาย-ในคุณภาพเกรดส่งออก

นอกจากการดูแลที่นอน การเลือกที่นอนเองที่เหมาะกับเราก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าคุณจะชอบที่นอนนุ่ม แน่น หรือมีปัญหาการนอนแบบไหน Nooz Sleep ก็มีให้เลือกได้ตามสไตลต์การนอนของคุณ สามารถเข้าไปเลือกที่นอนได้ที่

>>Nooz Sleep

0
    Your Cart
    Your cart is emptyReturn to Shop

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    Privacy Preferences

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    Allow All
    Manage Consent Preferences
    • Always Active

    Save